บทที่3 กระบวนการจัดการความรู้
การจัดการความรู้
หรือเคเอ็ม (KM = Knowledge Management) คือ

โดยที่ความรู้มี
2 ประเภท คือ
1) ความรู้ที่ฝังอยู่ในคน (Tacit Knowledge) เป็นความรู้ที่ได้จากประสบการณ์พรสวรรค์หรือสัญชาติญาณของแต่ละบุคคลในการทำความเข้าใจในสิ่งต่าง
ๆ เป็นความรู้ที่ไม่สามารถถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูด หรือลายลักษณ์อักษรได้โดยง่าย
เช่น ทักษะในการทำงาน งานฝีมือ หรือการคิดเชิงวิเคราะห์บางครั้ง
จึงเรียกว่าเป็นความรู้แบบนามธรรม
2) ความรู้ที่ชัดแจ้ง (Explicit Knowledge) เป็นความรู้ที่สามารถรวบรวม
ถ่ายทอดได้ โดยผ่านวิธีต่าง ๆ เช่น การบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร ทฤษฎี คู่มือต่าง
ๆ และบางครั้งเรียกว่าเป็นความรู้แบบรูปธรรม
กระบวนการจัดการความรู้ (Knowledge Management
Process) เป็นกระบวนการแบบหนึ่งที่จะ ช่วยให้องค์กรเข้าใจถึงขั้นตอนที่เกิดกระบวนการจัดการความรู้
หรือพัฒนาการของความรู้ที่จะเกิดขึ้นภายในองค์กร ประกอบด้วย 7 ขั้นตอน ดังนี้
1.
การบ่งชี้ความรู้ – เช่นพิจารณาว่า
วิสัยทัศน์/ พันธกิจ/ เป้าหมาย คืออะไร และเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
เราจำเป็นต้องรู้อะไร ขณะนี้เรามีความรู้อะไรบ้าง อยู่ในรูปแบบใด อยู่ที่ใคร
2.
การสร้างและแสวงหาความรู้ – เช่นการสร้างความรู้ใหม่
แสวงหาความรู้จากภายนอก รักษาความรู้เก่า กำจัดความรู้ที่ใช้ไม่ได้แล้ว
3.
การจัดความรู้ให้เป็นระบบ - เป็นการวางโครงสร้างความรู้
เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเก็บความรู้ อย่างเป็นระบบในอนาคต
4.
การประมวลและกลั้นกรองความรู้(Knowledge Codification and
Refinement)
5.
การเข้าถึงความรู้ (Knowledge Access)
6.
การแบ่งปันแลกเปลียนความรู้ (Knowledge Sharing) ความรู้นั้นทำให้เกิดประโยชน์กับองค์กรหรือไม่
7. การเรียนรู้ (Learning)
ทำให้องค์กรดีขึ้นหรือไม่มีการแบ่งปันความรู้ให้กันหรือไม่ เรานำความรู้มาใช้งานได้ง่ายหรือไม่ความรู้อยู่ที่ใคร
อยู่ในรูปแบบอะไรจะเอามาเก็บรวมกันได้อย่างไร
จะแบ่งประเภท
หัวข้ออย่างไรจะทำให้เข้าใจง่ายและสมบูรณ์อย่างไร เราต้องมีความรู้เรื่องอะไร เรามีความรู้เรื่องนั้นหรือยัง
SECI Model - เป็นการสร้างองค์ความรู้ด้วยการขยายผลจากชนิดความรู้คือ ความรู้ที่อยู่ในสมองของคน(Tacit
Knowledge) กับความรู้ที่ได้จากสื่อภายนอก(Explicit
Knowledge)โมเดลดังกล่าวมีชื่อว่า “SECI- Knowledge
Conversion Process” ซึ่งมีกระบวนการดังนี้

จะมีคลื่นความถี่ที่ใกล้เคียงกันสามารถสื่อสารและทำความเข้าใจกันได้โดยง่าย
2. Externalization เป็นการถ่ายโอนความรู้จากผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถในการสอนผ่านสื่อต่างๆ
จากประสบการณ์ในสมองของเขาออกมาสู่ภายนอกแก่ผู้อื่น
3. Combination การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆให้ทันต่อกระแสการเปลี่ยนแปลง
และมีการศึกษาเรียนรู้จากความรู้ภายนอก
ซึ่งแนวคิดจะมีความหลากหลายมากต้องสร้างความเข้าใจแลเชื่อมโยงความรู้อันหลากหลายให้ได้
และถ่ายทอดความรู้ใหม่ๆให้กับองค์กรของตน
4. Internalization การนำความรู้ใหม่มาลงมือปฏิบัติจริง
ผู้ปฏิบัติจะเกิดการเรียนรู้ให้เกิดเป็นความรู้ประสบการณ์และปัญญา
เป็นประสบการณ์อยู่ในสมองในเชิง Tacit Knowledge ต่อไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น